Dragon Nest M: เคล็ดลับแห่ง Academic นายช่างแห่งสนามรบ หุ่นรบแห่งสงคราม
อาชีพ Academic นั้นเป็นสายอาชีพที่ผู้เล่นส่วนใหญ่โหวตให้เป็นสายอาชีพที่เล่นง่ายและน่าเล่นที่สุดใน Dragon Nest M เลยก็ว่าได้ ไม่ใช่เพียงแค่ความน่ารักสดใจของตัวละครอาชีพนี้เท่านั้น แต่สกิลที่มีก็เรียกได้ว่าหลากหลายเช่นกัน ทำให้มีรูปแบบการพลิกแพลงได้มากมายหลายรูปแบบ ประกอบกับเป็นอาชีพที่สามารถเรียกหุ่นยนต์ประเภทต่างๆ ออกมาช่วยเหลือในการต่อสู้ได้ ทำให้สามารถลุยดันเจี้ยนในหลายๆ ดันเจี้ยนได้แบบชิลๆ เลยนั่นเอง
Academic
อาวุธประจำตัว : ปืนใหญ่และถุงมือช่าง
เปลี่ยนคลาสเมื่อ : คลาสเริ่มต้นสามารถเลือกเล่นได้ทันที
ถือเป็นสายอาชีพที่เก็บเลเวลช่วงเลเวล 1 – 15 ง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับสายอาชีพอื่นใน Dragon Nest M นั่นก็เพราะว่าเป็นตัวยิงจากระยะไกลและมีการโจมตีแบบรัวมากๆ สามารถเคลื่อนที่ไปด้วยและยิงปกติไปด้วยได้ นอกจากนั้นยังมีสกิลเรียกหุ่นยนต์ออกมาช่วยเหลือในการต่อสู้อีกด้วย เรียกได้ว่ามีแท็งค์ส่วนตัวให้ใช้งาน ทำให้สามารถผ่านดันเจี้ยนยากๆ ได้แบบชิลๆ เลย
จุดด้อยของสายอาชีพนี้ในช่วงแรกๆ อาจจะเรียกว่าแทบไม่ค่อยมีเลยเพราะถึงแม้ตัวจะบางเทียบเท่ากับสายเวทย์ตัวอื่นๆ แต่ก็มีหุ่นยนต์คอยช่วยแท็งค์และรับดาเมจแทนให้ ไหนจะการวิ่งยิงได้ ทำให้วิ่งวนเพื่อหลบสกิลและโจมตีไปด้วยได้แบบง่ายๆ ข้อเสียหลักๆ คงจะเป็นที่ในช่วงแรกของการเล่นดาเมจไม่ค่อยสูงมากและหุ่นยนต์ก็ยังไม่ได้อัพเกรดสกิล ทำให้ต้องยิงบอสในดันเจี้ยนแรกๆ ค่อนข้างนานแค่นั้นเอง
อาชีพในคลาสที่ 2
อาชีพคลาส 2 ของ Academic ใน Dragon Nest M จะมีรูปแบบการเล่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนเพราะฉะนั้นควรศึกษาให้ดีก่อนเลือกเปลี่ยนอาชีพ เพราะทั้งรูปแบบการเล่น การคอมโบและสกิลแทบจะไปคนละแนวทางกันเลย โดยสายอาชีพในคลาสที่ 2 ที่มีให้เลือกเปลี่ยนก็จะมี Engineer และ Alchemist
Engineer
เปลี่ยนคลาสเมื่อ : เลเวล 15
สายอาชีพที่มีจุดเด่นในเรื่องการโจมตีระยะไกลและใช้หุ่นยนต์กลไกต่างๆ ในการต่อสู้ อาชีพนี้จะสามารถเรียกหุ่นยนต์หลายๆ ประเภทเช่น โกเลมและเป็ดไฟฟ้าออกมาช่วยโจมตีเป้าหมาย นอกจากนั้นตัวเราเองก็สามารถใช้สกิลและยิงสนับสนุนจากด้านหลังได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอาชีพที่เล่นง่ายแบบสุดๆ การต่อสู้กับบอสหรือมอนสเตอร์แทบจะไม่ต้องชนเองเลยเพราะให้หุ่นยนต์ชนให้ได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีสกิลเสริมในเรื่องของการสร้างพื้นที่เพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่และสามารถสร้างป้อมปืนน้ำแข็งให้ช่วยยิงได้อีกต่างหาก
ข้อเสียของสายอาชีพนี้ก็จะอยู่ที่การจัดเรียงสกิลค่อนข้างทำได้ยาก เพราะถ้าจะเล่นสายเรียกหุ่นยนต์ก็จะทำให้เราแทบไม่มีสกิลใช้โจมตีด้วยตัวเองเลย แน่นอนว่าถ้าจะเลือกใช้สกิลโจมตีก็อาจจะเรียกหุ่นยนต์ได้น้อยลง เพราะฉะนั้นอาจจะต้องเลือกสายและจัดเรียงสกิลให้ดี
Alchemist
เปลี่ยนคลาสเมื่อ : เลเวล 15
สำหรับ Alchemist นั้นจะแตกต่างจาก Engineer อย่างสิ้นเชิงเพราะจะเน้นการโจมตีด้วยตัวเอง ไม่มีสกิลเรียกใช้หุ่นยนต์และการโจมตีส่วนใหญ่จะเป็นในรูปแบบระยะประชิดและกินรัศมีการทำลายล้างที่กว้างมาก ทีเด็ดของสายอาชีพนี้ก็คือ มีพลังทำลายล้างของสกิลที่ค่อนข้างรุนแรง การทำคอมโบต่างๆ ทำได้ค่อนข้างง่ายและต่อเนื่อง มีสกิลเสริมในเครื่องการโจมตีและหลบหนีได้เป็นอย่างดี
ส่วนของข้อเสียก็อาจจะอยู่ที่ความบอบบางของสายอาชีพเพราะอาชีพนี้จัดอยู่ในอาชีพสายเวทย์ แน่นอนว่าดาเมจจากสกิลอาจจะแรงแต่ถ้าพลาดโดนโจมตีก็จะโดนหนักด้วยเช่นกัน การเล่นค่อนข้างใช้เทคนิคและสเต็ปมากกว่า Engineer และต้องพึ่งพาไอเทมสวมใส่และความหนาของเครื่องป้องกันในระดับหนึ่งเลย
เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเล่น Academic
อย่างที่ทราบกันดีคือ Academic จัดอยู่ในอาชีพสายเวทย์ แน่นอนว่าดาเมจที่ทำได้จะรุนแรงอยู่แล้วแต่ก็ต้องแรกมาด้วยความบอบบางของร่างกาย
ใครที่จะเปลี่ยนเป็น Alchemist ให้เน้นเสริมความหนาให้กับร่างกายก่อนเป็นอันดับแรกไม่ว่าจะเป็นการตีบวกเครื่องป้องกัน การใส่ตราเพิ่มพลังชีวิตและพลังป้องกัน เพราะอาชีพนี้ต้องเข้าประชิดกับเป้าหมายเป็นส่วนใหญ่ ส่วนเรื่องดาเมจอาจจะไม่ต้องห่วงมากเพราะพื้นฐานสกิลของ Academic มีดาเมจที่รุนแรงอยู่แล้ว
ส่วนคนที่จะเปลี่ยนเป็น Engineer ให้เน้นการเพิ่มพลังโจมตีเวทย์เป็นหลัก เพราะเราแทบจะไม่ต้องชนมอนสเตอร์ด้วยตัวเองอยู่แล้ว ส่วนใหญ่จะใช้ให้หุ่นยนต์เข้าไปชนกับมอนสเตอร์แทน นั่นหมายความว่าถ้ายิ่งเรามีดาเมจและพลังโจมตีสูง ก็จะทำให้เราสามรถยิงสนับสนุนหุ่นยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
ในเกม Dragon Nest M สำหรับใครที่ต้องการเล่นแบบชิลๆ และมีความหลากหลายในการเล่นแนะนำว่าให้เลือกเล่นอาชีพ Academic เป็นอาชีพแรก เพราะสามารถเล่นได้ง่ายมากๆ แถมความโหดก็ยังอยู่ในระดับต้นๆ อีกด้วย ที่สำคัญคือ เป็นที่ต้องการของปาร์ตี้และเป็นตัวทำดาเมจให้ทีมชั้นเยี่ยมเลย แต่อาจจะต้องฝึกสเต็ปการเล่นสักหน่อยเพราะถือว่าเป็นอาชีพที่ต้องใช้สเต็ปในการควบคุมตัวละครและจังหวะเข้าออกเพื่อใช้สกิลพอสมควรเลยหล่ะ