Dragon Nest M: สอนเล่น Cleric พ่อพระแห่งสนามรบ จะบุกก็ทำได้ จะรับก็ได้ผลดี
Cleric เป็นสายอาชีพที่อาจจะไม่ค่อยนิยมกันสักเท่าไรใน Dragon Nest M เพราะด้วยรูปแบบของสายอาชีพจะเน้นในการสนับสนุนเพื่อนเป็นหลัก และการเล่นในช่วงเลเวล 1 – 15 นั้นค่อนข้างยากและลำบากกว่าอาชีพอื่นพอสมควร แต่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าคลาสที่ 2 และ 3 ของสายอาชีพนี้มีการแบ่งเป็นสายโจมตีด้วยเช่นกัน และยิ่งกว่านั้นก็ยังสามารถสร้างดาเมจได้ค่อนข้างสูงอีกด้วย ผิดกับช่วงแรกเลยทีเดียว เอาเป็นว่าในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับสายอาชีพนี้กัน
Cleric
อาวุธประจำตัว : คทาและโล่
เปลี่ยนคลาสเมื่อ : คลาสเริ่มต้นสามารถเลือกเล่นได้ทันที
เป็นคลาสที่ยากลำบากในการเล่นมากที่สุดเมื่อเทียบกับสายอาชีพอื่นๆ เพราะดาเมจของสกิลน้อยมากๆ เมื่อเทียบกับทุกสายอาชีพที่มีในตอนนี้ จุดเด่นในช่วงแรกอาจจะบอกได้ว่าไม่ค่อยจะมีเท่าไรนอกจากสกิลทุบที่กดแค่ครั้งเดียวก็สามารถทุบต่อเนื่องและทำน็อคดาวน์และทำให้เป้าหมายลอยแล้วต่อคอมโบได้แบบง่ายๆ อีกหนึ่งข้อดีคือ ค่อนข้างถึกกว่าสายอาชีพอื่นๆ ในช่วงแรกนั่นเอง
ในส่วนของข้อเสียก็อย่างที่บอกไว้ข้างบนคน ดาเมจน้อยมาก สมมุติว่าอาชีพอื่นโจมตีในช่วงแรก 150 ดาเมจ แต่ Cleric จะโจมตีได้แค่ 60 – 70 หน่วยเท่านั้น ทำให้ผ่านแต่ละด่านและกว่าจะเก็บเลเวลจนถึง 15 เพื่อเปลี่ยนอาชีพได้ลำบากและใช้เวลาค่อนข้างนาน
อาชีพในคลาสที่ 2
สำหรับอาชีพคลาส 2 ของ Cleric ใน Dragon Nest M นั้นต้องบอกว่าเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว จากที่เล่นยากมากๆ ในช่วงแรก จะกลายเป็นอาชีพที่เล่นง่ายและใครๆ ก็ต้องการในปาร์ตี้ไปเลยทันที โดยจะมีการแบ่งออกเป็น 2 สายอาชีพด้วยกันคือ Priest และ Paladin
Priest
เปลี่ยนคลาสเมื่อ : เลเวล 15
ในส่วนของอาชีพ Priest ถือว่าเป็นสายอาชีพที่จำเป็นมากในเกม Dragon Nest M เพราะเป็นสายอาชีพที่สามารถฟื้นฟูค่า HP ของเพื่อนในปาร์ตี้ได้ทีละมากๆ และช่วยสนับสนุนจากบัฟต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ทั้งในสงครามและในการลงดันเจี้ยนโหดๆ ถือเป็นหนึ่งสายอาชีพที่จำเป็นแบบสุดๆ แน่นอนว่าข้อดีของสายอาชีพนี้ก็คือ การสนับสนุนและการฟื้นฟูค่า HP นอกจากนั้นยังมีในส่วนของการแท็งค์มอนสเตอร์และดึงมอนสเตอร์ได้อีกด้วย เพราะถือเป็นอาชีพที่มีพื้นฐานในเรื่องของพลังป้องกันที่สูงมาก ประกอบกับบัฟและสกิลที่มีอยู่ทำให้ทนดาเมจได้เป็นอย่างดี ทีเด็ดของสายอาชีพนี้ก็คือ เมื่อเพิ่มค่าพลังโจมตีเวทย์สูงๆ จะสามารถสร้างดาเมจได้ค่อนข้างดีไม่แพ้สายเวทย์อื่นๆ เลยทีเดียว เพราะมีทั้งสกิลที่ปักเสาไฟฟ้าเพื่อยิงแบบต่อเนื่องและอันติเมทที่มีวงกว้างสร้างความเสียหายได้อย่างต่อเนื่องหลายฮิตอีกด้วย
ข้อเสียของสายอาชีพนี้หลักๆ ก็จะอยู่ที่คูลดาวน์ของสกิลอาจจะค่อนข้างนานไปหน่อย และสกิลบางประเภทอย่างพวกสกิลบัฟที่เป็นสกิลประเภทกดใช้ จำเป็นต้องเอามาใส่ในช่องสกิลโจมตี ทำให้เราต้องเลือกว่าจะเล่นสายที่เน้นโจมตีหรือบัฟเพื่อนนั่นเอง และยังเป็นสายอาชีพที่ต้องพึ่งพาไอเทมพอสมควรเลยทีเดียว เพราะถ้าไอเทมไม่ถึงก็จะสร้างดาเมจได้ไม่มากพอและฮิลได้ไม่แรงพอ
Paladin
เปลี่ยนคลาสเมื่อ : เลเวล 15
เป็นสายอาชีพที่ความถึกอยู่ในระดับต้นๆ ของ Dragon Nest M เลยหล่ะ แถมยังเป็นตัวทำดาเมจชั้นยอดอีกต่างหาก เพราะเป็นสายอาชีพที่มีสกิลโจมตีให้เลือกใช้ค่อนข้างเยอะ และหนักไปในทางคอมโบจากชุดสกิลมากกว่าสกิลแรงๆ แค่ 1-2 ฮิต นอกจากนี้ยังมีสกิลประเภทช่วยลดดาเมจให้กับตนเองและปาร์ตี้ รวมไปถึงสกิลกางโล่แล้วเดินซึ่งสกิลนี้จะช่วยรับดาเมจและดึงมอนสเตอร์ได้เป็นอย่างดี แถมในสงครามยังเป็นตัวป่วนชั้นยอดได้อีกด้วย เพราะสกิลหลายสกิลมี CC ทำให้เป้าหมายติดสตั้นและทำลายซุปเปอร์อาเมอร์ได้เยอะ
ข้อเสียของ Paladin ก็คือ ไม่ค่อยมีสกิลช็อทที่ทำดาเมจแรงๆ ได้ในการโจมตีครั้งเดียวแบบสายอาชีพอื่น หลักๆ จะเป็นสกิลที่ส่งผลต่อการป้องกันและสนับสนุนตัวเองมากกว่า นอกจากนั้นยังต้องพึ่งพาคอมโบในการต่อสู้กับผู้เล่นด้วยกันเองค่อนข้างสูง การเล่นจึงจำเป็นต้องใช้ทักษะในการควบคุมสูงกว่า Priest พอสมควรเลย แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นตัวรับดาเมจที่ดีในปาร์ตี้และเป็นแนวหน้าในสงครามได้แจ่มแมวเลยหล่ะ
เทคนิคเพิ่มเติมในการเล่นสายอาชีพ Cleric
ต้องบอกก่อนนะครับว่าสามารถใช้ได้ทั้ง Priest และ Paladin ซึ่งทั้ง 2 อาชีพนี้จะมีสกิลที่แบ่งออกเป็นสกิลสนับสนุนและสกิลโจมตี แน่นอนว่ารูปแบบการใช้งานจะแตกต่างกันออกไป แนะนำว่าให้แบ่งหน้าสกิลเป็น 2 หน้าและเซ็ตสกิลให้เป็นดังนี้
- สกิลหน้า 1 เซ็ตเป็นสกิลสนับสนุนและสกิลที่เน้นลงดันแบบปาร์ตี้
- สกิลหน้า 2 ให้เซ็ตในแบบลุยเดี่ยวและเน้นสกิลโจมตี เพื่อเอาไว้ลงดันเจี้ยนเดี่ยว
ทั้งหมดเป็นความรู้เกี่ยวกับสายอาชีพ Cleric ภายในเกม Dragon Nest M หวังว่ามันจะเป็นไกด์ในการช่วยเหลือเพื่อตัดสินใจเลือกสายอาชีพที่ต้องการเล่นของเพื่อนๆ ได้ และต้องบอกไว้อีกหนึ่งอย่างก็คือ อย่าลืมว่าสายอาชีพนี้จะแสดงประสิทธิภาพได้สูงสุดก็ต่อเมื่ออยู่กับปาร์ตี้เท่านั้น ไม่เหมาะกับการเล่นแบบ Solo เป็นอย่างยิ่ง