ในเกม Garena Free Fire นั้นเป็นเกม Battle Royale ที่ค่อนข้างแตกต่างจากเกมมือถืออื่นๆ ในประเภทเดียวกันพอสมควร เพราะตัวเกมถูกสร้างออกมาเป็นเวอร์ชั่นมือถือโดยเฉพาะทำให้การเล่นมีความง่ายและรวดเร็ว ซึ่งความแตกต่างนี้ทำให้มีรูปแบบและเทคนิคการเล่นเพิ่มขึ้นค่อนข้างหลากหลายเอาเป็นว่าในวันนี้เรามาเรียนรู้เทคนิคการเล่นแบบไม่เปลืองเนื้อเปลืองตัวกันดีกว่าว่ามีแบบไหนบ้าง

ไปจุดศูนย์กลางของวงกลมขาวให้ไวที่สุด

ในเกม Garena Free Fire นั้นจุดที่มักจะมีการต่อสู้และการฆ่ากันมากที่สุดจะอยู่ในส่วนของขอบนอกวงขาว เพราะเริ่มเกมมาจะมีเวลาประมาณ 3 นาทีก่อนที่วงขาวจะปรากฏ แน่นอนว่าผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะเดินทางไปในจุดต่างๆ แบบอิสระและกระจายกันอยู่รอบนอกของแผนที่หรือจุดสำคัญในการโดดร่มเพื่อฟาร์มไอเทม และเมื่อวงขาวปรากฏก็มักจะพยายามวิ่งเข้าหา ทำให้จุดนอกวงขาวจะเป็นจุดที่อันตรายมากๆ การเลี่ยงรอบนอกของวงขาวและเข้ามาด้านในและจุดศูนย์กลางให้ไวที่สุดถือเป็นเทคนิคการเอาตัวรอดในแบบที่ไม่ต้องปะทะแบบง่ายๆ นั่นเอง

ไม่โดดร่มลงจุดที่คนนิยม

ถ้าให้พูดถึงเกี่ยวกับการโดดร่มนั้นจะมีอยู่ 2 ส่วนที่ให้สังเกตก่อนโดดคือ ขณะอยู่บนเครื่องบินเมื่อไอคอน “โดดร่ม” ปรากฏ ไม่ควรกดโดดลงมาทันที เพราะผู้เล่นส่วนใหญ่มักจะโดดลงมาทันทีเพราะคิดว่าถึงพื้นก่อนก็ได้อาวุธก่อนและไล่ฆ่าคนก่อน แต่จริงๆ แล้วเป็นความคิดที่ผิดมากๆ เพราะศัตรูในบริเวณใกล้เคียงจะเยอะมากๆ ทำให้โอกาสเสี่ยงต่อการตายสูงแบบสุดๆ

อีกหนึ่งส่วนก็คือ จุดโดดร่มที่นิยมอย่าง พีค, โรงเก็บเครื่องบิน และโรงสี จุดพวกนี้จะมีคนโดดร่มลงเป็นจำนวนมาก แน่นอนว่าคนยิ่งมากก็ยิ่งทำให้โอกาสในการปะทะสูงและเสี่ยงต่อการตายสูง แนะนำว่าให้โดดร่มลงในจุดที่ไม่ค่อยมีคนหรือบ้านเล็กๆ ตามรอยต่อต่างๆ ซึ่งจุดเหล่านี้คนมักไม่ค่อยโดดลงและมักจะมีไอเทมให้เราฟาร์มเอาตัวรอดได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย

พยายามเก็บเห็ดกินให้ค่า EN สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้

ใน Garena Free Fire ไอเทมประเภท “เห็ด” ถือเป็นส่วนสำคัญมากๆ ในการเล่นเกม เพราะมันจะช่วยทำให้เราตายได้ยากขึ้นและสามารถฟื้นฟูค่า HP ได้อีกด้วย การเก็บเห็ดกินถือเป็นข้อได้เปรียบแบบสุดๆ ในการเล่น ยิ่งค่า EN เต็ม 200 หน่วยก็ยิ่งได้เปรียบเวลาปะทะ อีกอย่างก็คือ เมื่อเราโดนซุ่มยิงเราจะสามารถทนต่อการโจมตีได้ในระดับหนึ่งด้วย

เทคนิคในการหาเห็ดก็คือ เห็ดส่วนใหญ่มักจะเกิดบริเวณที่มีต้นไม้หรือในป่าและมีหญ้าสูงๆ แน่นอนว่าถ้าเดินไปบริเวณที่มีลักษณะดังกล่าวโอกาสเจอเห็นมีมากถึง 70% เลยทีเดียว ส่วนบริเวณที่เห็ดจะไม่ออกเลยก็จะเป็นบริเวณถนนหรือใจกลางตึกและเมืองใหญ่ๆ

ถ้าจะซุ่มหรือหลบซ่อนต้องอยู่ในที่สูงเสมอ

ถือเป็นพื้นฐานของเกมแนว Battle Royale เลยก็ว่าได้ เพราะถ้าคุณอยู่พื้นที่ที่สูงกว่าศัตรูก็จะทำให้คุณได้เปรียบในเรื่องของระยะการมองเห็น, การยิงตอบโต้ของเป้าหมายและการหลบซ่อนจากการค้นหาของศัตรูได้เป็นอย่างดี โดยพื้นที่สูงที่เหมาะกับการซุ่มใน Garena Free Fire ก็จะเป็นพื้นที่ยอดภูเขา, สะพานใหญ่หรือบนหลังคาบ้าน ซึ่งจุดเหล่านี้ถ้าซุ่มดีๆ หรือนอนราบกับพื้นก็แทบจะมองไม่เห็นตัวเลยทีเดียว แน่นอนว่าเราไม่จำเป็นต้องซุ่มเพื่อโจมตีศัตรูอย่างเดียว แต่เราสามารถซุ่มเพื่อหลบหนีสายตาและรอจังหวะตอนเกมใกล้จบก็ได้เช่นกัน

วิ่งเสมอเมื่อเจอพื้นที่โล่งๆ

เมื่อจำเป็นต้องผ่านพื้นที่โล่งไม่มีอะไรกำบังแนะนำว่าให้กดวิ่งเสมอ ไม่ควรเดินอยู่บริเวณที่โล่งนานๆ เพราะจะทำให้เป็นเป้านิ่งในการโจมตีได้แบบง่ายๆ และเมื่อโดนโจมตีในที่โล่งสิ่งที่ไม่ควรทำก็คือ กดนั่งลงหรือหมอบราบกับพื้นเพราะคุณจะกลายเป็นเป้านิ่งมากกว่าเดิม ให้กดวิ่งแบบยาวที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือกระโดดไปด้วยก็ได้เช่นกันเพื่อทำให้เราไม่เป็นเป้านิ่ง จากนั้นให้วิ่งเข้าหาที่กำบังที่ใกล้ที่สุดในบริเวณนั้น

หลีกเลี่ยงการใช้ยานพาหนะเมื่อเล่นในโหมด Solo

ถ้าคุณเล่นในโหมด Solo และต้องการจะอยู่รอดให้ได้นานที่สุด แนะนำว่าไม่ควรใช้รถหรือยานพาหนะในเกมถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เพราะเสียงรถใน Garena Free Fire เป็นอะไรที่ดังแบบเวอร์วังมาก แทบจะเป็นการบอกตำแหน่งให้ศัตรูรู้เลยว่าเราอยู่ที่ไหน นอกจากนี้รถใน Garena Free Fire ก็ยังเป็นอะไรที่พังได้แบบง่ายสุดๆ ที่สำคัญเวลาเราขับรถคนเดียวจะทำให้เราไม่สามารถโจมตีสวนคืนได้นั่นเอง การหลีกเลี่ยงการใช้รถจึงเป็นอะไรที่ควรทำมากที่สุดเมื่อเล่นในโหมด Solo

ทั้งหมดก็เป็นทริคและเทคนิคในการเอาตัวรอดใน Garena Free Fire แบบง่ายๆ โดยไม่ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวในการปะทะสักเท่าไร แต่ต้องบอกก่อนนะครับว่าการจะได้ที่ 1 แบบไม่ฆ่าใครเลยนั้นเป็นเรื่องยากพอสมควร เพราะอย่างน้อยๆ ต้องเล่นเป็นทีมคอยเกาะเพื่อนและสนับสนุนเพื่อนหรือถ้าเล่นแบบ Solo ก็อาจจะต้องฆ่าอย่างน้อย 1 คนเพื่อให้ได้มาซึ่งที่ 1