RoV สายไหนทำหน้าที่อะไร รู้ไว้จะได้ไม่ไก่!!!
ในเกม RoV นั้นตัวเกมจะมีฮีโร่อยู่หลากหลายตัว และแต่ละตัวก็จะถูกแยกออกไปเป็นแต่ละสายที่แตกต่างกันออกไปเพื่อให้ภายในทีมมีฮีโร่ที่หลากหลายและพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนเป็นแผนรูปแบบต่างๆ ตามที่เราต้องการได้ โดยหลายๆ คนมักจะเล่นฮีโร่ผิดสายจึงทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า เล่นไม่เป็นหรือเล่นเป็นไก่ (กรณีนี้ยกเว้นพวกที่ตั้งใจเล่นให้ผิดสาย) สำหรับบทความนี้เราจะมาพูดถึงวิธีการเล่น ในแต่ละสายกันว่าจะมีวิธีการเล่นแบบใดกันบ้าง
Tank
มากันที่สายแรกสุดเลยสำหรับสาย Tank(แทงค์) โดยสายนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ชอบเล่นฮีโร่ที่ถึงรับดาเมจจากศัตรูได้เยอะ แต่จะมีข้อเสียอยู่นั้นก็คือพลังโจมตีที่ค่อนข้างน้อยจึงไม่สามารถที่จะไล่จัดการศัตรูได้ ถึงแม้จะสามารถฆ่าแต่อาจจะต้องใช้เวลาที่นานเอามากๆ
โดยหน้าที่หลักๆ ของตัวละครสาย Tank นั้นก็คือเป็นทัพหน้าให้กับทีมค่อยเปิดให้กับทีมและสร้างโอกาสต่างๆ เพราะสกิลที่ Tank ส่วนใหญ่มักจะมีนั้นก็คือสกิลประเภท Hard CC นั้นก็คือสกิลที่ส่งผลในการควบคุมตัวละคร ( Clown Control ) เช่น สตั้น สโลว์ และสกิลส่วนใหญ่ของ TanK นั้นจะเป็นแบบ AOE อีกด้วยนั้นหมายความว่าเปิดศัตรูพร้อมกันได้มากกว่า 2 ตัวขึ้นไปนั้นเอง ในบางที Tank อาจจะต้องมีหน้าที่ในการป้องกัน Mage หรือ Carry ของเราในกรณีที่ตัว Support เราโดนล้วงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Warrior
สาย Fighter เป็นอีกหนึ่งสายที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบันและมักจะถูกหยิบไปอยู่ในเลนมังกรเพราะว่าสามารถเอาตัวรอดเวลาอยู่คนเดียวได้ จุดเด่นของสาย Fighter นั้นก็คือมีความถึกที่อยู่ในระดับปานกลางและมีพลังโจมตีที่อยู่ในระดับที่สามารถหวังผลได้ในการจัดการกับศัตรู แต่ข้อเสียของสายนี้นั้นก็คือ ผู้เล่นจะต้องมีสกิลเพลย์หรือเทคนิคในการเล่นในระดับหนึ่งจึงจะสามารถเล่นในตำแหน่งนี้ได้ เพราะว่าถ้าเล่นไม่ดีก็จะไม่ต่างอะไรกับวิ่งเข้าไปตายเล่นๆ เพราะฮีโร่สายนี้นั้นส่วนใหญ่จะเป็นสายโจมตีระยะประชิด ซึ้งถ้าเข้าผิดพลาดสักเล็กน้อย อาจจะทำให้ตายทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยก็เป็นได้
สำหรับหน้าที่ของสายนี้นั้นก็คือ ตามตัว Tank ของเราเข้าไป เพื่อเป็น Damage ซ้อนและดึงความสนใจของศัตรูไม่ให้เข้ามายุ่งกับ Mage และ Carry ที่เป็น Damage หลักของทีมนั้นเอง ดังนั้นคนเล่น Fighter ถ้ายังไม่เกิดแล้วใจร้อนนี้อาจจะส่งผลเสียให้กับทีมทันที นอกจากนั้น Fighter ก็มักจะหยิบมาเป็นตัวทำเกมคอย Gank ช่วยเพื่อนก็เป็นได้
Assassin
สายนี้เป็นหนึ่งในสายที่คนชอบเล่นกันมากที่สุดเพราะฆ่าได้เยอะ พลังโจมตีสูง แถมแบกทีมได้อย่างสบายๆ (ถ้าเล่นดีนะ) โดยตัวละครสายนี้มักจะอยู่ในตำแหน่ง Jungle เพราะช่วงต้นเกมจะต้องรีบปันเลเวลของตัวละครให้เป็นเลเวล 4 เพื่อให้ได้สกิลอันติเมท ที่จะสามารถช่วยให้การจัดการศัตรูด้วยสกิลชุดเดียวนั้นเป็นไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่ข้อเสียของตัว Assassin นั้นก็คือ ถ้าเข้าไม่ดี อาจจะตายได้อย่างรวดเร็ว เพราะบางมากๆ สกิดนิดๆ หน่อยก็พร้อมจะตายให้ได้ แต่และมากับการจัดการ Carry ทีมโน้นได้อย่างรวดเร็วก็ถือว่าคุ้มเลยทีเดียว
สำหรับหน้าที่ในสายนี้นั้นก็คือการจัดการตัวที่เป็น Damage หลักของทีมตรงข้ามให้ได้อย่างรวดเร็วที่สุดนั้นเองเช่นการเข้าไปลวงเก็บ Carry และ Mage เพราะเสร็จภารกิจแล้วค่อยออกมาช่วยทีมจัดการตัว Tank อีกที แต่หลายๆ ครั้งมักจะมี Support ที่คอยป่วนเราไม่ให้เราเข้าไปถึง Carry สักที ดังนั้นอาจจะต้องรอจังหวะดีแล้วจึงค่อยเข้า เพราะส่วนใหญ่ Assassin หลังจากปล่อยสกิลทุกอย่างจนหมดก๊อกแล้ว ก็ไม่ต่างอะไรกับมีเนี่ยนที่ตีแรงขึ้นมาหน่อยหนึ่งก็เท่านั้น
Archer
คนไทยหัวใจ Carry ชื่อนี้ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะถ้าเล่นตาไหนแล้วมีคนเลือก Carry คนเดียวนี้เช็คเชิฟเวอร์ได้เลยว่ามาถูกเชิฟหรือไม่ โดย Carry นั้นจะมีทั้งหมด 2 รูปแบบ นั้นก็คือ
- Carry DPS: เป็น Carry สายที่ทำดาเมจต่อเนื่องทุกการโจมตีนั้นสามารถหวังผลได้เสมอ แต่จะเป็นการทำ Damage ที่ละนิดๆ ไปเรื่อย นั้นเอง เช่น Yorn
- Carry Brust: เป็น Carry ที่หวังผลจากสกิลเป็นหลังสามารถทำดาเมจได้อย่างมหาศาลด้วยการยิงชุดเดียวจากการใช้สกิลแต่หลังจากยิงไปแล้วอาจจะต้องรอสักพักเพื่อให้สกิลรีคูลดาวน์เสร็จ เช่น Violet
โดยหน้าที่หลักของตัว Carry นั้นก็คือการจ่าย Damage ต่อเนื่องเรื่อยๆ แต่นอกทีมไฟต์ก็ต้องรีบเร่งฟาร์มเพื่อเก็บเงินไว้ใช้ในการออกของ เพราะว่าความเกง ของ Carry นั้นจะขึ้นอยู่กับของที่มีเป็นหลักนั้นเอง
Support
ตัวละครประเภทนี้มักจะไม่ถูกรับเลือกให้เล่นสักเท่าไหร่ เพราะเป็นดังตัวละครปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง แต่ถ้าทีมอยู่ในสถานะแย่เมื่อไหร่ สิ่งที่เกิดขึ้นคือตัวละคร Supports จะกลายเป็นแพะทันที จุดเด่นของตัวละครประเภทนี้นั้นก็คือมีสกิลในการช่วยเหลือเยอะ อย่างเช่น Payna ที่สามารถฮีลเพิ่มเลือดเพื่อนร่วมทีมได้ หรือ Alice ที่มีสกิลเปิดโล่ให้กับเพื่อนร่วมทีมได้นั้นเอง
สำหรับหน้าที่ของ Support จะเป็นการช่วยเหลือ Carry ของทีมให้สามารถฟาร์มได้สบายมากยิ่งขึ้น และมีขึ้นไปช่วยเหลือ Mage หรือเลนมังกรบางเป็นบ้างครั้ง แต่สำหรับในช่วง Team Fight จะมีหน้าที่ในการป้องกัน Carry ไม่ให้มี Assassin เข้ามาล่วงจัดการนั้นเอง
Mage
ตัวละครสาย Mage นั้นเป็นตัวละครที่เป็น Key หลักสำคัญของเกมนี้เพราะมีดาเมจที่สูงสามาถจัดการศัตรูที่เดียวหลายๆ ตัวก็สามารถทำได้ แต่มีข้อเสียนั้นก็คือบางถึงบางมาก แต่ก็ยังดีกว่า Carry เพราะว่ามีของที่ช่วยในเรื่องการเพิ่มเลือดเยอะพอสมควร ดังนั้นจึงสามารถเอาตัวรอดจากสถานะการคับคันได้ค่อนข้างดี
สำหรับหน้าที่ของ Mage นั้นจะเป็นการค่อยตามสาย Tank หลังจากที่สาย Tank ทำการเปิดให้กับทีมหรือสร้างจังหวะให้กับทีมเรียบร้อยแล้ว เพราะสกิลส่วนใหญ่ของ Mage จะเป็น AOE ถ้าเอาไปคอมโบกับสกิลของสาย Tank ที่เป็น AOE ด้วยกันแล้วละก็รับรองต้องมีสักศพแน่นอน แต่ต้องระวังสาย Assassin สักหน่อยเพราะอาจจะมารอล้วงเก็บเราก่อนก็เป็นได้
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับความรู้ดีๆ ที่เราเอามาแนะนำกันในบทความนี้โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดนั้นก็คือการเล่นเป็นทีมนั้นเอง ถ้าเล่นกันเป็นทีมได้ดีชัยชนะก็จะอยู่ไม่ห่างไกลกันอย่างแน่นอน