หนึ่งในระบบที่ไม่เหมือนใครใน Iron Throne นั้นคือมีโหมดต่างๆมากมาย ด้วยโหมดเหล่านี้ทำให้คุณรู้สึกเหมือนได้เล่นเกมแนว ARPG ไม่ว่าจะเป็นภารกิจมากมายภายในเมือง หรือจะต่อสู้กับผู้เล่นท่านๆ ระบบการต่อสู้ที่ใช้ในโหมดเหล่านี้ต้องการให้คุณทำการตัดสินใจทางด้านกลยุทธในระดับที่ไม่เคยเห็นในเกมแนวยึดครองบนมือถืออื่นๆ แต่อย่าได้กังวลไปเพราะเราได้รวบรวมข้อมูลที่จะช่วยให้เล่นโหมดเหล่านี้ได้ง่ายขึ้นไว้ให้คุณแล้ว

โหมดต่างๆใน Iron Throne

ใน Iron Throne จะมีทั้งหมด 5 โหมด ดังนี้

• โหมดเนื้อเรื่อง: โดยจะเปิดให้ใช้งานได้หลังเลเวล 5 หรือเรียกอีกอย่างว่า “Dimension Battle” (สงครามมิติ) โดยคุณจะต้องสู้กับ NPC เพื่อผ่านแชปเตอร์ต่างๆ

• อารีน่า: เปิดใช้งานเมื่อสำเร็จแชปเตอร์ 2 ในสงครามมิติ โดยจะเป็นการต่อสู้กับผู้เล่นอื่น และมีการแข่งขันตามฤดูกาล

• แบทเทิลรอยัล: นี้เป็นโหมดที่น่าสนใจเพราะว่าคุณจะต้องเล่นเหมือนเกมแบทเทิลรอยัลจริงๆ โดยผู้เล่นทั้ง 20 คนจะต้องต่อสู้กันเอง โดยพื้นที่การต่อสู้ภายในวงกลมแห่งไฟ และถ้าหากคุณออกนอกวงจะตายทันที ในการเปิดใช้งานโหมดนี้คุณจำเป็นต้องมี Citadel (ปราสาท) เลเวล 12 โดยทหารหรือทรัพยากรที่เสียไปในโหมดนี้จะไม่กระทบต่อโหมดอื่นๆ ในแต่ละครั้งที่คุณเริ่มเล่นก็จะได้รับจำนวนทหารที่เท่าเดิม

• ทีมเดธแมทช์: เป็นโหมดที่มีความคล้ายคลึงกับแบทเทิลรอยัลที่ทหารหรือทรัพยากรที่เสียไปในโหมดนี้จะไม่กระทบต่อโหมดอื่นๆ แต่สมรภูมิจะมีขนาดกว้างกว่า ด้วยสนามรบที่มีขนาดใหญ่สามารถจุผู้เล่นได้ถึง 40 คน (20 vs 20) โดยโหมดนี้จะใช้งานได้เมื่อ Citadel (ปราสาท) เลเวล 14

• หมู่บ้าน: โหมด RPG ใน Iron Throne ถ้าหากคุณเคยเล่น APRG อย่าง Diablo มาก่อน โหมดนี้จะมีความคล้ายคลึงกันมาก โดยคุณจะควบคุมอัศวินเพียงตัวเดียวเพื่อสืบสวนอาชญากรรมที่เกิดขึ้น โดยในหมู่บ้านจะมีบทสนทนามากมายที่จะทำให้คุณเข้าใจเนื้อเรื่องของเกม และเมื่อทำสำเร็จจะได้รับบัฟที่เป็นประโยชน์ สามารถเปิดใช้งานได้เมื่อเลเวล 8 ขึ้นไป

ระบบการต่อสู้

เพื่อให้เข้าใจระบบใน Iron Throne มากขึ้น เราจะมาพูดถึงเหล่าทหารต่างๆกันก่อนโดยในเกมจะมีทหารอยู่ทั้งหมด 3 ประเภทคือ ทหารราบ พลธนู และทหารม้า ดังนี้:

คุณจำเป็นต้องรู้ว่าทหารแบบไหนต่อสู้กับศัตรูแบบไหนได้ดี ก่อนที่คุณจะปล่อยพวกเขาลงไปยังสนามรบ โดยเริ่มที่หน้าต่างนี้ คุณจะเลือกได้ว่าจะให้อัศวินไหนเป็นคนนำทัพ และเลือกว่าจะนำทหารกองทัพไหนเข้าร่วมต่อสู้

ในหน้าต่างนี้ คุณจะเห็นได้ว่ากองทัพศัตรูของคุณมีทหารอะไรบ้าง คุณจะเรียนรู้ข้อมูลเหล่านี้โดยอัตโนมัติเมื่อต่อสู้กับ NPC หากต่อสู้กับผู้เล่นด้วยกันเอง คุณจำเป็นต้องทำการสอดแนมก่อน โดยคุณต้องใช้หอสังเกตการณ์ในการตรวจสอบ ในหลายๆกรณี เมื่อสร้างกองทัพของคุณเองขึ้นมา คุณจำเป็นต้องให้ความสนใจกับกองทัพของศัตรูให้มาก ตัวอย่างเช่น หากศัตรูของคุณมีพลธนู ในกองทัพของคุณก็ควรจะมีทหารม้า

ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มต้นขึ้น คุณจำเป็นต้องวางกองทัพของคุณลงบนสนามรบก่อน จำไว้ว่าการวางตำแหน่งขอศัตรูนั้นสำคัญ หากแถวหน้าของศัตรูเป็นทหารม้า คุณควรจะวางทหารม้าไว้ที่แถวหน้า คุณจำเป็นต้องวางกลยุทธทุกครั้งและทุกครั้งก็จะต่างกันออกไป หลังจากที่คุณวางทหารเรียบร้อยแล้วก็ให้กดที่ปุ่ม “Start Battle” (เริ่มการสู้รบ)

คุณไม่สามารถออกคำสั่งทหารของคุณได้โดยตรงหลังจากที่การต่อสู้เริ่มขึ้นแล้ว ที่มุมขวาล่างสุด จะมีปุ่มสกิล คุณสามารถดูสกิลที่คณใช้ได้และการเรียกสัตว์ประหลาดออกมาช่วยรบ ด้วยระบบไดนามิกนี้คุณสามารถใช้ทั้งสกิลและสัตว์ประหลาดที่ไหนก็ได้บนสนามรบโดยการลากลงไป ตัวอย่างเช่น คุณต้องการเรียก โทรล์ ให้กดไปที่ปุ่มโทรล์และลากลงสนามรบ เมื่อปล่อยจะทำการเรียกโทรล์ออกมา หากคุณเรียกออกมาในพื้นที่ๆทหารของคุณกำลังประสบปัญหา สิ่งที่คุณเรียกออกมาจะช่วยได้มากเลยทีเดียว

คอยบัญชาการอยู่เสมอ

กล่าวได้ว่าในเกมนี้ไม่เหมือนกับเกมแนวยึดครองอื่นๆ ระหว่างการต่อสู้นั้นผู้เล่นจะไม่สามารถควบคุมอะไรได้ต้องปล่อยให้เกมต่อสู้ไปด้วยระบบอัตโนมัติ ในเกมนี้ผู้เล่นสามารถมีส่วนร่วมกับเกมตลอด หากคุณเข้ามาช่วยเหลือกองทัพได้ถูกที่ถูกเวลาจะทำให้ผลของการต่อสู้เปลี่ยนไปทันที แต่อย่าลืมว่าทุกๆการใช้สกิลหรืออัญเชิญจำเป็นต้องใช้ Mana คุณไม่สามารถเรียกใช้ได้ตลอดเวลา เราแนะนำให้ใช้ในตอนที่ทหารของคุณกำลังเสียเปรียบหรือจะพ่ายแพ้

ทุกครั้งหลังจากที่ได้รับชัยชนะคุณจะได้รับของรางวัลตอบแทน จำนวนของรางวัลนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนของทหารที่อยู่รอด ยิ่งรอดมากเท่าไหร่ของรางวัลก็ยิ่งดีขึ้น หากคุณพ่ายแพ้บ่อยอย่าพยายามสู้ต่อ นั้นหมายความว่าเลเวลของคุณอาจจะยังไม่พอ คุณสามารถเปลี่ยนกองทัพที่พ่ายแพ้เป็นกองทัพใหม่ได้ หรือจะรักษาเหล่าทหารที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลและนำกลับเข้าสู่การต่อสู้

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าอัศวินของคุณได้เป็นผู้นำบัญชาการเหล่าทหารด้วยคุณสมบัติหัวหน้าป้องกัน ตัวอย่างเช่น หากคุณเอาอัศวินที่มีคุณสมบัติวิชาการ หรือการก่อสร้างไปบัญชาการ กองทัพของคุณจะไม่สามารถแสดงศักยภาพได้เต็มที่ จำไว้ให้ดีว่าไอเทมและเลเวลของอัศวินยิ่งสูงก็จะช่วยส่งผลในสนามรบได้มากขึ้น

ระบบต่อสู้ใน Iron Throne จำเป็นต้องใช้กลยุทธในการตัดสินใจ จากมุมมองของเราบอกได้เลยว่ามันคือเกมที่แยกมาจาก Total War หรือ Heroes of Might & Magic ที่มีระบบใกล้เคียงกัน เราขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านบทความและคู่มือของเรา ท้ายนี้ขอให้คุณโชคดีกับการต่อสู้ในสนามรบ