RAID: Shadow Legends เป็นเกมแนวกาชาที่เป็นที่นิยมมากในตลาดเพราะมีตัวละครให้ปลดล็อกได้มากกว่า 450 แบบ อุปกรณ์สวมใส่มากมาก และวัตถดิบต่างๆ ให้ฟาร์มได้ไม่จำกัด อีกทั้งยังมีเนื้อเรื่องให้เล่นมากถึง 12 บทที่ถือได้ว่าเป็นเนื้อหาที่ยากมากสำหรับเกมแนว RPG สุ่มกาชา

อย่างไรก็ตามในการเล่นทุกโหมดของเกม คุณจะต้องผ่านการเล่นในโหมดแคมเปญหลักเพื่อปลกล็อกและเพิ่มพลังให้กับตัวละครก่อน ซึ่งคุณต้องใช้วัตถุดิบและไอเทมอัพเกรดที่ต้องหาจากโหมดต่างๆ ของเกม ในบทความนี้เราจะมีแสดงให้ดูว่าจะหาวัตถุดิบสำคัญได้อย่างไร

สิ่งที่ควรฟาร์มในช่วงต้นเกม

เป็นคำถามแรกที่คุณควรถามตัวเองก่อน ถ้าคุณได้อ่านบทความก่อนหน้านี้ของเรา คุณจะรู้ว่าทางที่ดีที่สุดในการเล่นเกมนี้คือการเล่นในโหมดเนื้อเรื่อง ซึ่งก็เป็นทางที่ดีที่สุดในการฟาร์มเช่นกัน เมื่อคุณได้ตั้งเป้าหมายว่าจะเล่นแคมเปญให้เร็วที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้ สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือการเก็บเลเวล หาเงิน และอุปกรณ์ โชคดีที่คุณสามารถหาทุกอย่างได้จากด่านในโหมดเนื้อเรื่อง หรือพุดอีกอย่างว่าคุณจพบสิ่งที่คุณต้องการในการชนะแคมเปญจากการเล่นแคมเปญนั่นเอง

เป้าหมายหลักของคุณที่นี่คือการเก็บเลเวลให้ตัวละครของคุณไปถึงเลเวลสูงสุดโดนการเล่นแคมเปญเนื้อเรื่อง จากนั้นจึงเล่นต่อเพื่อหาแชมเปี้ยนอื่นที่จำเป็นต่อการอัพเกรดแชมเปี้ยนหลักของคุณในทีม ในจุดนี้คุณควรจะอัพเกรดให้ถึงระดับ 5* เพื่อที่คุณจะสามารถเล่นผ่านเนื้อเรื่องหลักได้โดยง่าย

หลักจากที่คุณชนะเนื้อเรื่องหลักในระดับธรรมดาแล้ว มันถึงเวลาที่คุณจะต้อฟาร์มเพื่อหาอุปกรณ์ที่คุณยังไม่มีเพื่อที่จะเล่นให้ผ่านระดับยาก และระดับ Brutal นั่นหมายถึงการเล่นในโหมด Dungeon เพื่อหาอุปกรณ์และไอเทมอัพเกรดอื่นๆ แต่อย่างไรก็ตามทุกอย่างเริ่มต้นที่แคมเปญ

ในย่อหน้าต่อไป เราจะอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมในแต่ล่ะโหมดที่คุณจะต้องหาทรัพยากรที่คุณต้องใช้ในเกมนี้

Main Story Campaign (XP and Silver) แคมเปญเนื้อเรื่องหลัก

จากที่ได้กล่าวถึงด้านบน แคมเปญคือตัวเลือกที่ดีที่สุดในช่วงต้นเกม ไม่ใช่แค่โหมดนี้ให้ค่าประสบการณ์เยอะ แต่ยังให้เงินจำนวนมากอีกด้วย

โหมดเนื้อเรื่องถูกแบ่งออกเป็น 12 บทบทล่ะ 7 ด่าน โดยทุกด่านจะให้รางวัลเมื่อเล่นผ่าน โดยเฉพาะด่านที่ 3 และ 6 เป็นด่านที่ดีที่สุดสำหรับการเก็บค่าประสบการณ์และเงิน แต่เมื่อเทียบกับจำนวนของ energy ที่ต้องใช้ในการเข้าเล่น ด่านที่ 3 ไม่ได้ให้ทรัพยากรมากนักแต่มักจะให้ไอเทมที่สามารถขายได้ราคาสูง ส่วนด่านที่ 6 จะให้ค่าประสบการณ์ที่สูงซึ่งสูงกว่าที่ได้จากบอสในระดับเดียวกันด้วยซ้ำ

ยิ่งไปกว่านั้น แคมเปญหลักเป็นสิ่งที่ดีในการอุปกรณ์สำหรับใช้ในช่วงต้นถึงกลางเกม 6 ด่านแรกในแต่ล่ะบทจะให้ไอเทมต่างกันขณะที่ด่านที่ 7 จะให้ไอเทมที่สำคัญกว่าประจำบทนั้น ชนิดของอุปกรณ์จะต่างกันไปตามบทต่างๆ แต่ประเภทของอุปกรณ์จะต่างกันไปตามด่าน นี่คือรายการไอเทมที่จะได้ในแต่ล่ะบท
ชนิดของไอเทมในแต่ล่ะบท:

1. บทที่ 1: Life
2. บทที่ 2: Offense
3. บทที่ 3: Defense
4. บทที่ 4: Critical
5. บทที่ 5: Accuracy
6. บทที่ 6: Speed
7. บทที่ 7: Resistance
8. บทที่ 8: Lifesteal
9. บทที่ 9: Destroy
10. บทที่ 10: Retaliation
11. บทที่ 11: Fury
12. บทที่ 12: Curing

ประเภทของไอเทมที่จะได้รับในแต่ล่ะด่าน:

1. ด่าน 1: อาวุธ
2. ด่าน 2: หมวก
3. ด่าน 3: โล่
4. ด่าน 4: ถุงมือ
5. ด่าน 5: เกราะ
6. ด่าน 6: รองเท้า
7. ด่าน 7: สุ่มได้รับ

ตอนนี้เหมือนว่าด่านที่ 7 จะเป็นด่านที่ได้รับอุปกรณ์ยากแต่คุณสามารถได้รับอุปกรณ์ประเภทใดก็ได้จากการชนะด่านนี้ นั่นหมายความว่าการเล่นด่านนี้เป็นการท้าทายอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามด่านที่ 1 – 6 จะให้ไอเทมระดับ Common ถึง Uncommon เท่านั้นขณะที่ด่าน 7 มีโอกาสให้ไอเทมระดับ Rare ซึ่งคุ้มค่าต่อการใช้ Energy เพื่อฟาร์ม

Dungeons (ยาจุติ, ไอเทมสำหรับขาย, และม้วนคัมภีร์)

ตอนนี้เมื่อคุณเล่นผ่านเนื้อเรื่องทั้งหมดแล้วก็ถึงเวลาที่จะเริ่มฟาร์มในโหมด Dungeon เพื่อหาไอเทอื่นๆ ที่ต้องใช้ในการอัพเกรดทีมของคุณ

มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราจะไม่เล่นในโหมดนี้จนกว่าคุณจะเล่นเกมมาได้ซักพัก ทั้งหมดก็เพราะไอเทมที่ดีที่สุดอยู่ในส่วนที่ยากที่สุดซึ่งต้องใช้ทีมที่พร้อมมากๆ ในการฟาร์ม เช่น การหาอุปกรณ์ที่ดีที่สุดในระดับ 12 หรือสูงกว่าใน Dungeon ต้องใช้ทีมที่อัพเกรดแล้วจากการฟาร์มในแคมเปญหลักเพื่อเพิ่มโอกาสในการเอาชนะ ไม่อย่างนั้นคุณก็จะเปลือง Energy เสียเปล่าใน Dungeon ที่ไม่ได้ให้ไอเทมอะไรที่ดีไปกว่าที่คุณมีอยู่เลย

เรามาดูกันดีกว่าว่าแต่ล่ Dungeon ให้อะไรบ้าง

Potion Dungeons

ในป้อมทั้ง 5 จะมียา 5 ประเภทที่ต่างกัน ได้แก่ Spirit, Arcane, Magic, Void, และ Force potions ภายในจะมีบอสที่ด่างกันอยู่ยกเว้น Arcane Keep ที่เปิดให้เข้าเล่นในแต่ล่ะวัน

1. Magic, Spirit, and Force: เปลี่ยนทุกวัน
2. Arcane: เปิดทุกวัน
3. Void: เปิดเฉพาะวันอาทิตย์

ในช่วงแรกคุณอาจพบว่าคุณสามารถเข้าเล่นในโหมดนี้ได้ตลอด แต่หลังจากอาทิตย์แรกระบบจะกลับไปเปิดตามตารางเดิม

ยาถูกใช้สำหรับจุติและเพิ่มพลังให้กับแชมเปี้ยน การอัพเกรดไม่ได้จำเป็นมากนักเมื่อเทียบกับการเก็บเลเวลและการหาอุปกรณ์ แต่มันก็จำเป็นเมื่อคุณได้ทำอย่างอื่นครบแล้ว เช่น เมื่อคุณเพิ่มระดับของการจุติแชมเปี้ยนของคุณจะสามารถใส่ฉายา เครื่องราง หรือแม้แต่การเพิ่มสถานะที่ไม่ได้จากการเพิ่มเลเวลตามปกติ

จากประเภทของแชมเปี้ยน คุณต้องใช้ทั้ง arcane potions และยาอื่นๆ ที่สัมพันธ์กัน คุณสามารถหายาต่างๆ จากด่านของ Dungeon ได้ดังนี้:

1. ด่านที่ 1-3: Lesser Potions.
2. ด่านที่ 4-7: Lesser and Greater Potions.
3. ด่านที่ 8-15: Lesser, Greater, and Superior Potions.

จำเอาไว้ว่า ยิ่งด่านระดับสูงก็ยิ่งใช้ Energy มากตามไปด้วยเพื่อเข้าเล่น ให้ระวังไว้ว่าคุณอาจจะใช้ Energy ที่สะสมไว้หมดอย่างไม่รู้ตัว

Minotaur’s Labyrinth

ที่ที่ดีที่สุดในการหา Mastery scrolls คือสถานที่เก็บเลเวลที่ยาวที่สุดในเกม นอกเหนือจากยาต่างๆ แล้ว นี่ควรเป็นที่หนึ่งที่คุณควรพิจารณาเพื่ออัพเกรดแชมเปี้ยน

Minotaur’s Labyrinth ประกอบไปด้วยบอสทั่วไปและลูกสมุนของ Minotaur การสู้นั้นง่ายมาก ศัตรูไม่ได้มีเทคนิคอะไรพิเศษแต่ศัตรูสามารถโจมตีได้อย่างรุนแรง โดยเฉพาะการใส่ Debuff ที่จะทำให้โดนการโจมตีแบบ AoE แรงขึ้นมากกว่า 200% ยิ่งไปกว่านั้นสกิลติดตัวยังเพิ่มบัพความโกรธที่จะเพิ่มพลังโจมตีเป็น 400% ใน 3 เทิร์น แต่โชคยังดีที่เมื่อบัพหมดแล้วจะทำให้เราสามารถโจมตีได้ 200% ในเทิร์นถัดไป ซึ่งนี่เป็นโอกาสที่ดีในการสวนกลับ

การสู้กับ Minotaur เป็นการสู้สลับกับการรักษาโดยให้ป้องกันเมื่อโดนโจมตีและพยายามโจมตีกลับเมื่อมีโอกาส เนื่องจากไม่มีการโจมตีอื่นนอกเหนือจากนี้สิ่งที่คุณต้องทำก็คือพยายามรักษาให้รอดในแต่ล่ะเทิร์นซึ่งจะทำให้คุณไม่มีทางแพ้ แต่จำไว้ว่าให้ตีลูกสมุนก่อน

Artifact Dungeons

นี่คือ Dungeon ที่สำคัญที่สุดเพราะคุณสามารถหาไอเทมสำหรับอัพเกรดอุปกรณ์ที่คุณได้รับจากเนื้อเรื่องหลักได้ทีนี่ อย่างไรก้ตามไอเทมดังกล่าวสามารถหาได้จากด่านที่ 13 และ Dungeon อื่นๆ ซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องมีอุปกรณ์และไอเทมที่รับจากการเล่นในระดับหนึ่ง หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็นอุปกรณ์ที่คุณต้องการในการเอาชนะระดับ Brutal และเลื่อนขั้นแชมเปี้ยนเป็นระดับ 6*

นี่คือ Dungeon 4 ประเภทที่จะให้ไอเทมที่ต่างกัน:

1. Ice Golem’s Peak: Life, Defense, Critical Rate, Offense, Resistance, Retaliation, Cursed, Taunting, Reflex.
2. Spider’s Den: Rings, Amulets, and Banners.
3. Dragon’s Lair: Speed, Accuracy, Destroy, Toxic, Frost, Lifesteal, Daze, Avenging, Stalwart.
4. Fire Knight’s Castle: Immunity, Shield, Fury, Critical Damage, Frenzy, Regeneration, Stun, Savage.

ยิ่งไปกว่านั้น ทุก Dungeon จะประกอบไปด้วยหลายด่าน ยิ่งด่านระดับสูงก็ยิ่งให้ไอเทมที่มีคุณภาพสูงตามไปด้วย:

1. ด่าน 1: 1-2 ดาว
2. ด่าน 2: 1-3 ดาว
3. ด่าน 3: 2-3 ดาว
4. ด่าน 4: 2-4 ดาว
5. ด่านs 5 and 6: 3-4 ดาว
6. ด่านs 7-9: 3-5 ดาว
7. ด่านs 10-15: 4-6 ดาว

ถ้าคุณเล่นแคมเปญหลักจนได้รับอุปกรณ์ที่ดีที่สุดแล้ว คุณสามารถลุ้นได้เลยว่าคุณจะสามารถฟาร์มฟาไอเทมในด่านที่ 12 หรือ 13 ได้อย่างง่ายดายเพื่อหาอุปกรณ์ระดับ 6 ดาว โดยด่านที่ 13 ขึ้นไปจะใช้ Energy เยอในการเข้าเล่น

ตอนนี้คุณได้รู้ทุกอย่างที่จำเป็นเกี่ยวกับการฟาร์มทรัพยากรต่างๆ ในเกม RAID: Shadow Legends. แล้วถ้าคุณมีข้อสงสัยอะไร สามารถคอมเม้นไว้ได้เลยด้านล่างนี้