ในโลกของ The Ragnarok เกมแนว RPG การเลือกคลาสที่เหมาะสมอาจมีผลกระทบอย่างมากต่อประสบการณ์การเล่นเกมของคุณ ตั้งแต่การสังหารมอนสเตอร์ไปจนถึงการเข้าร่วมดันเจี้ยนแบบทีม ข้อมูลด้านล่างนี้จะแสดงข้อดีและข้อเสียของแต่ละคลาส เพื่อช่วยคุณตัดสินใจว่าคลาสใดเหมาะสมกับสไตล์การเล่นของคุณมากที่สุด

Knight: อัศวินผู้กล้าหาญแห่งแนวหน้า

  • ข้อดี: พลังป้องกันสูง, แทงค์ที่แข็งแกร่งในทีม
  • ข้อเสีย: ต้องการ SP สูงสำหรับใช้สกิล, ฟาร์มช้าช่วงต้นเกม
  • จุดอ่อน: ขาดความคล่องตัวและดาเมจในช่วงต้นเกม
  • ระยะโจมตี: ระยะประชิด
  • จุดแข็ง: เหมาะสำหรับการแทงค์และโจมตีศัตรูระยะประชิด, ใช้โล่เพิ่มความทนทาน
  • สกิลที่ควรอัพช่วงต้นเกม: Bash, Magnum Break, Increase HP Recovery
  • สกิลที่ควรอัพช่วงท้ายเกม: Brandish Spear, Bowling Bash, Endure
  • ค่าสเตตัสที่แนะนำ: เน้น STR, VIT, และ DEX เพื่อเพิ่มพลังโจมตีและความแข็งแกร่งในการป้องกัน

The Ragnarok - คู่มืออาชีพและคลาส เพิ่มความสนุกและประสิทธิภาพในการผจญภัย

Knight เป็นนักรบแนวหน้าที่ถนัดการต่อสู้ระยะประชิด ความแข็งแกร่งของ Knight อยู่ที่ความสามารถในการป้องกันสูง และมีความยืดหยุ่นในเรื่องบทบาท ไม่ว่าจะเป็นแทงค์ที่แข็งแกร่งหรือ DPS ในช่วงท้ายเกม Knight มักจะต้องแลกเปลี่ยนพลังการป้องกันด้วย DPS ที่ลดลง ซึ่งทำให้พวกเขาฟาร์มหรือก้าวหน้าในช่วงต้นเกมได้ช้ากว่าคลาสอื่น นอกจากนี้ Knight ยังต้องการค่า SP สูงสำหรับการใช้สกิล ส่งผลให้ต้องจัดการพลังงานให้ดีในช่วงเริ่มต้น คำแนะนำสำหรับ Knight ที่เน้นแทงค์คือสร้างบิลด์ Bash และใช้โล่ แต่หากต้องการเล่นแบบ DPS ก็สามารถใช้หอกสองมือหรือดาบใหญ่ได้ โดยการสร้างบิลด์ควรเน้นไปที่ค่า Strength และ Vitality เพื่อเสริมพลังโจมตีและความแข็งแกร่งในการป้องกัน

Wizard: พ่อมดเวทย์มนตร์สุดลึกล้ำ

  • ข้อดี: ดาเมจ AOE สูง, ความสามารถในการควบคุมฝูงศัตรู
  • ข้อเสีย: พลังชีวิตต่ำ, คูลดาวน์สกิลยาว
  • จุดอ่อน: เปราะบางต่อการโจมตี, ต้องจัดการ SP อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ระยะโจมตี: ระยะไกล
  • จุดแข็ง: การโจมตีด้วยเวทย์มนตร์ที่รุนแรง, สกิลโจมตีแบบกลุ่ม
  • สกิลที่ควรอัพช่วงต้นเกม: Fire Bolt, Frost Diver, Safety Wall
  • สกิลที่ควรอัพช่วงท้ายเกม: Meteor Storm, Storm Gust, Lord of Vermilion
  • ค่าสเตตัสที่แนะนำ: เน้น INT และ LUK เพื่อเพิ่มพลังเวทย์และคริติคอล, เพิ่ม DEX เพื่อลดเวลาร่ายเวทย์

The Ragnarok - คู่มืออาชีพและคลาส เพิ่มความสนุกและประสิทธิภาพในการผจญภัย

Wizard เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการร่ายเวทย์จากระยะไกล พวกเขามีความสามารถในการโจมตีแบบ AOE และควบคุมฝูงมอนสเตอร์ได้ด้วยสกิล Crowd Control ที่ทรงพลัง ด้วยพลัง DPS สูงและความสามารถในการรีเจน SP อัตโนมัติ Wizard สามารถพัฒนาศักยภาพได้สูงสุดในช่วงท้ายเกมเมื่อสามารถร่ายเวทย์ได้โดยไม่ต้องเสียเวลา อย่างไรก็ตาม พวกเขามีพลังชีวิตต่ำและต้องเผชิญกับปัญหาคูลดาวน์สกิลที่ยาวในช่วงต้นเกม ซึ่งอาจทำให้พวกเขาเปราะบางต่อการโจมตี การสร้างบิลด์ที่ดีสำหรับ Wizard จะเน้นการเพิ่มค่า INT และ LUK สำหรับคริติคอล และควรเพิ่มค่า DEX เพื่อช่วยลดเวลาร่ายเวทย์ในช่วงท้ายเกม

Hunter: นักธนูผู้พิชิตศัตรูระยะไกล

  • ข้อดี: ฟาร์มเร็ว, พลังโจมตีสูงจากระยะไกล
  • ข้อเสีย: ไม่มีสกิล AOE, สกิลควบคุมฝูงศัตรูจำกัด
  • จุดอ่อน: ต้องจัดการ SP อย่างรอบคอบ, อ่อนแอต่อการโจมตีระยะประชิด
  • ระยะโจมตี: ระยะไกล
  • จุดแข็ง: ความแม่นยำสูง, การปรับเปลี่ยนลูกธนูตามธาตุของศัตรู
  • สกิลที่ควรอัพช่วงต้นเกม: Double Strafe, Owl’s Eye, Vulture’s Eye
  • สกิลที่ควรอัพช่วงท้ายเกม: Arrow Shower, Falcon Assault, True Sight
  • ค่าสเตตัสที่แนะนำ: ADL (Agi, Dexterity, Luck) เพื่อเพิ่มความเร็วในการโจมตีและความแม่นยำ

The Ragnarok - คู่มืออาชีพและคลาส เพิ่มความสนุกและประสิทธิภาพในการผจญภัย

Hunter เป็นคลาสที่เน้นการโจมตีระยะไกลด้วยความแม่นยำ พวกเขามีพลังโจมตีสูงและสามารถทำดาเมจแบบ Single Target ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อดีของ Hunter คือพลังการฟาร์ม AFK ที่รวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงต้นเกม พวกเขายังสามารถเลือกใช้ลูกธนูธาตุต่างๆ เพื่อเพิ่มความเสียหายต่อศัตรู ข้อเสียหลักคือไม่มีสกิล AOE และมีสกิล Crowd Control เพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ Hunter อาจต้องจัดการ SP อย่างรอบคอบในช่วงต้นเกม คำแนะนำสำหรับการสร้างบิลด์ของ Hunter คือเริ่มต้นด้วยการใช้สกิล Double Strafe และเปลี่ยนไปใช้บิลด์ ADL (Agi, Dexterity, Luck) ในช่วงท้ายเกม

Blacksmith: ช่างตีเหล็กผู้เปลี่ยนโลก

  • ข้อดี: ฟาร์มเงินได้ดี, บัฟที่เสริมพลังให้ทีม
  • ข้อเสีย: ต่อสู้ระยะประชิดลำบากใน PVP, ต้องใช้ไอเท็มและการ์ดเสริมพลัง
  • จุดอ่อน: อ่อนแอในช่วงต้นเกม, พึ่งพาสกิล Mammonite ที่ใช้เงิน
  • ระยะโจมตี: ระยะประชิด
  • จุดแข็ง: การโจมตีด้วยอาวุธหนัก, ความสามารถสร้างไอเท็มพิเศษ
  • สกิลที่ควรอัพช่วงต้นเกม: Bash, Mammonite, Weaponry Research
  • สกิลที่ควรอัพช่วงท้ายเกม: Power Thrust, Over Thrust, Cart Revolution
  • ค่าสเตตัสที่แนะนำ: STR และ VIT เพื่อเพิ่มพลังโจมตีและความแข็งแกร่งในการต่อสู้

The Ragnarok - คู่มืออาชีพและคลาส เพิ่มความสนุกและประสิทธิภาพในการผจญภัย

Blacksmith เป็นคลาสที่เน้นการโจมตีระยะประชิดและมีพลังในการสนับสนุนที่ยอดเยี่ยม พวกเขาสามารถเป็น DPS ที่แข็งแกร่งและยังมีสกิล Buff ที่ช่วยเพิ่มพลังให้กับทีม Blacksmith ยังเป็นหนึ่งในคลาสที่มีความสามารถในการจัดการเศรษฐกิจได้ดีในเกม เนื่องจากสามารถฟาร์มเงินได้ง่ายและสร้างไอเท็มต่างๆ ได้ตามต้องการ แม้ว่าจะมีข้อเสียในการต่อสู้ระยะประชิดใน PVP และการเริ่มต้นเกมที่ยาก แต่พวกเขาสามารถพัฒนาเป็น DPS ที่แข็งแกร่งได้ในช่วงท้ายเกม บิลด์สำหรับ Blacksmith ที่ได้รับความนิยมคือ Mammonite โดยการเน้นค่า Strength และ Vitality สำหรับการเพิ่มพลังโจมตีและการป้องกัน

Assassin: นักฆ่าผู้เงียบงัน

  • ข้อดี: ดาเมจสูง, ความเร็วโจมตีรวดเร็ว
  • ข้อเสีย: ไม่มีโล่, อ่อนแอในช่วงต้นเกม
  • จุดอ่อน: ต้องการการ์ดอาวุธเพื่อเสริมพลัง, พึ่งพาสกิลโจมตีแบบพิเศษ
  • ระยะโจมตี: ระยะประชิด
  • จุดแข็ง: ดาเมจคริติคอลรุนแรง, โจมตีเงียบและรุนแรง
  • สกิลที่ควรอัพช่วงต้นเกม: Envenom, Sonic Blow, Cloaking
  • สกิลที่ควรอัพช่วงท้ายเกม: Grimtooth, Soul Breaker, Katar Mastery
  • ค่าสเตตัสที่แนะนำ: STR, LUK, และ AGI เพื่อเพิ่มพลังโจมตีและความเร็วคริติคอล

The Ragnarok - คู่มืออาชีพและคลาส เพิ่มความสนุกและประสิทธิภาพในการผจญภัย

Assassin เป็นคลาสที่มีความสามารถในการโจมตีระยะประชิดและระยะไกลในช่วงท้ายเกม พวกเขาเป็นที่รู้จักในเรื่องของการทำ DPS สูงในช่วงท้ายเกม ซึ่งสามารถเลือกเล่นได้ทั้งแบบสายคริติคอลหรือสาย Soul Breaker อย่างไรก็ตาม Assassin มีประสิทธิภาพต่ำในช่วงต้นเกม เนื่องจากไม่สามารถถือโล่และไม่มีสกิลป้องกันที่แข็งแกร่งได้ Assassin ยังต้องใช้การ์ดอาวุธอย่างมากเพื่อเพิ่มพลังโจมตีให้ได้สูงสุด บิลด์ที่เหมาะสมสำหรับ Assassin คือ Sonic Blow ในช่วงต้นเกม และเปลี่ยนเป็น Soul Breaker หรือ Agi Crit ในช่วงท้ายเกม โดยควรเน้นค่า STR และ LUK เพื่อเพิ่มความแรงของคริติคอล

Priest: ผู้พิทักษ์แห่งแสงศักดิ์สิทธิ์

  • ข้อดี: สนับสนุนทีมได้ดี, ฮีลและบัฟช่วยทีม
  • ข้อเสีย: พลังโจมตีลดลงในช่วงท้ายเกม, ต้องพึ่งพาทีมในการทำดาเมจ
  • จุดอ่อน: ไม่มีสกิลโจมตีที่รุนแรง, ต้องพึ่งพาสกิลสนับสนุนมาก
  • ระยะโจมตี: ระยะไกล
  • จุดแข็ง: สกิลฟื้นฟู SP, สนับสนุนทีมได้ทั้งการฮีลและป้องกัน
  • สกิลที่ควรอัพช่วงต้นเกม: Heal, Blessing, Increase Agility
  • สกิลที่ควรอัพช่วงท้ายเกม: Sanctuary, Magnus Exorcismus, Kyrie Eleison
  • ค่าสเตตัสที่แนะนำ: INT และ VIT สำหรับการเพิ่มพลังฮีลและความทนทาน

The Ragnarok - คู่มืออาชีพและคลาส เพิ่มความสนุกและประสิทธิภาพในการผจญภัย

Priest เป็นคลาสที่เน้นการสนับสนุนและสามารถทำทั้งการฮีลและการบัฟเพื่อนร่วมทีมได้อย่างยอดเยี่ยม พวกเขายังสามารถทำดาเมจได้ในช่วงต้นเกมด้วยสกิล Holy Light แต่เมื่อเข้าสู่ช่วงท้ายเกมจะมีพลังโจมตีลดลงหากไม่ได้เปลี่ยนไปใช้บิลด์ที่เหมาะสม ข้อดีของ Priest คือการสร้างบิลด์ที่ง่ายและเป็นมิตรต่อผู้เล่นสายฟรี โดยมีสกิลฟื้นฟู SP ที่ช่วยประหยัดทรัพยากร ข้อเสียคือ Priest ต้องเปลี่ยนไปใช้บิลด์ถึกหรือเน้นการสนับสนุนเพื่อให้ยังคงมีประสิทธิภาพในช่วงท้ายเกม คำแนะนำสำหรับการเล่น Priest คือใช้ Holy Light ในช่วงต้นเกม และเปลี่ยนไปใช้บิลด์สนับสนุนเต็มตัวในช่วงท้าย

แต่ละคลาสใน The Ragnarok มีความสามารถเฉพาะตัวและกลยุทธ์ที่เหมาะสมสำหรับการเล่นให้สำเร็จ การเลือกคลาสที่เหมาะสมกับสไตล์ของคุณจะช่วยให้การผจญภัยในโลกของเกมนี้สนุกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ดาวน์โหลดอีมูเลเตอร์ BlueStacks บน PC วันนี้เพื่อสนุกกับ The Ragnarok อย่างเต็มที่และได้เปรียบคู่แข่งในการแข่งขันด้วยเครื่องมือและฟีเจอร์มากมายที่เกมนี้มอบให้คุณ