เทคนิค Jungle ระดับพระกาฬ Gank โหดจนเพื่อนต้องยกนิ้ว
ในการเล่นเกม RoV หรือ Realm of Valor นั้นภายในทีมจะถูกแบ่งออกเป็นหลายๆ ตำแหน่งตามหาที่และความถนัดของแต่ละคนออกไป แต่ถ้าต้องให้นึกถึงตำแหน่งที่สำคัญ จนถึงขนาดที่สามารถแบกทีมได้ เชื่อว่าหลายๆ คนต้องนึกถึงตำแหน่ง Jungle อย่างแน่นอน ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับตำแหน่งนี้ พร้อมกับเทคนิคดีๆ ที่เราจะมาแนะนำกัน!!!!
เพราะอะไรทำไม Jungle จึงสำคัญมากๆ สำหรับเกม RoV
ในตำแหน่ง Jungle นั้นถือว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะคอยกำหนดทิศทางให้กับเกม เพราะว่าเป็นตำแหน่งเดียวที่ศัตรูจะไม่สามารถตำแหน่งที่อยู่ในปัจจุบันได้ จึงไม่สามารถเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับ Lane ตัวเองเพราะตำแหน่ง Jungle คิดจะออกมา Gank เมื่อไหร่ก็ย่อมได้
ที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งนั้นก็คือ Jungle นั้นเป็นตำแหน่งที่สามารถกำหนดความได้เปรียบเสียเปรียบของแต่ละ Lane ได้ เช่นเมื่อมี Lane ล่างถูกฮีโร่ทีมตรงข้ามกดดันอย่างหนัก ถ้ามีตำแหน่ง Jungle เข้าไปกดดันหรือช่วยให้ทีมเราได้ฆ่าใน Lane นั้นๆ อาจจะทำให้ตัวละครภายทีมเราภายใน Lane นั้นกลับมาได้เปรียบขึ้นมาได้เลย
สิ่งที่สามารถทำให้ตัวละครนั้นเป็น Jungle นั้นก็คือ Skill ที่สามารถจัดการศัตรูได้อย่างรวดเร็ว หรือตัวที่สามารถทำ Hard CC ได้จากระยะไกลได้นั้นเอง ซึ่งตัวละครพวกนี้ส่วนใหญ่มักจะเป็น Assassin หรือ Carry ทั้งหลาย ที่สามารถทำ Damage ได้อย่างรวดเร็ว และต่อจากนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคดีๆ สำหรับการเล่นในตำแหน่ง Jungle กัน
1. รู้จักกับตัวละครที่ตัวเองเล่นก่อน
ตัวละครสาย Jungle นั้นจะมีหลายตัว และแต่ละตัวก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป แต่จะแบ่งออกชัดๆ ได้ดังนี้
- ตัวละคร Jungle ที่สามารถ Gank ได้ตั้งแต่ Level 2 นั้นก็คือตัวละครที่ไม่จำเป็นต้องใช้สกิล Ultimate เพื่อให้ได้การ Gank ที่มีประสิทธิภาพ ตัวอย่างตัวละครที่อยู่ในประเภทนี้นั้นก็คือ Violet, Zelphys และ Ryoma
- ตัวละคร Jungle ที่สามารถ Gank ได้ตั้งแต่ Level 4 นั้นก็คือตัวละครที่จำเป็นต้องมี Level 4 เพื่อให้ได้สกิล Ultimate ก่อนจึงจะสามารถเริ่มเดินเกมได้ ตัวอย่างตัวละครประเภทนี้นั้นก็คือ Butterfly, Nakroth และ Murad
โดยใครที่เล่นตำแหน่ง Jungle อาจจะต้องคาดการความสามารถของตัวละครในส่วนนี้ไว้ด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าเล่น Butterfly จะไม่สามารถ Gank ก่อน Level 4 ได้นะ ถ้าเห็นว่าสถานะการณ์ได้เปรียบละก็เข้าไป Gank ได้เลย!!!
2. เล็งพวกล้ำเส้น ตบให้หายซ่าเพื่อความได้เปรียบของ Lane
เกมนี้นั้นจะมีบ่อน้ำนกลางแผนที่เป็นตัวแบ่งอนาเขต ของพื้นที่อย่างชัดเจน ดังนั้นเราต้องใช้สิ่งนี้ให้เป็นประโยชน์ เพราะเมื่อมีตัวละครทีมตรงข้ามที่ล้ำเข้ามาในอนาเขตของ Tower เรา นั้นหมายความว่าระยะทางที่จะหนีของตัวละครทีมตรงข้ามก็จะยิ่งไกลขึ้นอีกด้วย ถ้าเราเข้าไป Gank ตอนนี้จะทำให้มีโอกาสที่จะสังหารศัตรูได้มากขึ้นด้วย และนอกจากนั้นจำทำให้ Lane ที่เราไป Gank นั้นได้เปรียบ เพราะว่าศัตรูที่เราฆ่าไปต้องเสียเวลาในการฟาร์มเป็นจำนวนหลายวินาทีเลยทีเดียว
3. เก็บ Object ให้ครบเมื่อมีโอกาส สร้างความได้เปรียบให้ทีม
สิ่งที่ Jungle ต้องท่องไว้นั้นก็คือ Tower คือเงินกู้ Object และ Kill คือรายได้ คำนี้นั้นหมายความว่าเงินที่เราได้มาจากการเก็บ Tower นั้นอีกไม่นานถ้าทีมตรงข้ามได้ป้อมเหมือนกัน อีกสักพักเงินก็กลับมาเท่ากันแล้ว แต่สำหรับ Object และ Kill นั้นเป็นเงินที่เราได้มา และฝ่ายตรงข้ามจะไม่สามารถหามาทดแทนได้ซึ่งจะช่วยให้การเงินของเรานั้นเริ่มทิ้งห่างศัตรูไปเรื่อยๆ จนแทบไม่เห็นฝุ่น ดังนั้นเราควรเก็บ Abyssal Dragon ในทุกๆ ครั้งที่เป็นไปได้ เพื่อให้งานเงินของเรานำขึ้นมานั้นเอง
4. ไม่ต้องรีบร้อน แค่ล่อศัตรูให้ปล่อยของก็ถือว่าใช้ได้
Jungle มือใหม่หลายๆ คนมักจะคิดแค่ว่าเข้าไป Gank แล้วต้องได้ Kill กลับมา แต่เอาเขาจริงๆ การ Kill นั้นก็ถือว่าเป็นกำไรส่วนหนึ่งเท่านั้น เอาเข้าจริงๆ แล้วถ้าเราล่อให้ศัตรูใช้สกิลที่มีระยะเวลา Cooldown นานๆ ได้โดยที่เรายังไม่ได้จ่ายสกิลอะไรออกไป นั้นก็ถือว่า OK แล้ว เพราะเมื่อเราวนมา Gank ใหม่อีกรอบจะทำให้เรามั่นใจได้ว่า ศัตรูจะยังไม่มีสกิลที่เอาไว้หนี แน่นอน
โดยเทคนิคที่เราเอามาแนะนำในวันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทคนิค ดีๆ ที่เราเอามาแนะนำกัน นอกจากนั้นจะเป็นเทคนิคส่วนตัวของแต่ละคนออกไป ตามที่ตนเองถนัดกัน แต่ถ้าใครสามารถยึดตามข้างบนได้แล้วละก็ อย่างน้อยๆ คุณก็สามารถเป็น Jungle ที่ทีมสามารถไว้วางใจได้แล้วละ!!