ถ้าให้พูดถึงดันเจี้ยนในเกม Soul Gauge นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งระบบที่จะช่วยให้เราสามารถเก็บเลเวลและหาวัตถุดิบต่างๆ ในการอัพเดทตัวละครได้แบบง่ายๆ แน่นอนว่าดันเจี้ยนภายในเกมนั้นมีมากมายหลากหลายประเภท แต่ละประเภทก็จะมีวิธีการลงและรูปแบบของไอเทมของรางวัลแตกต่างกันออกไป เอาเป็นว่าในวันนี้เราจะมาดูรูปแบบของประเภทดันเจี้ยนและของรางวัล รวมไปถึงความสำคัญของดันเจี้ยนที่ไม่ควรพลาดในแต่ละวันว่ามีอะไรบ้าง ว่าแล้วก็ไปดูกันเลย

การเข้าสู่ดันเจี้ยน

การเข้าสู่ดันเจี้ยนภายในเกม Soul Gauge นั้นสามารถทำได้แบบง่ายๆ โดยการเข้าผ่านคำสั่ง “Rift” ที่อยู่ในเมนูคำสั่งรวม ผู้เล่นสามารถเข้าสู่ดันเจี้ยนได้ทุกที่ทุกเวลา นอกจากนั้นก็ยังสามารถสร้างห้องและจับคู่ปาร์ตี้แบบอัตโนมัติได้อีกด้วย ถือเป็นความสะดวกสบายและไม่ต้องเดินหาทางเข้าดันเจี้ยนเอง ซึ่งการเข้าดันเจี้ยนแต่ละครั้งจะต้องใช้ไอเทม Space Time Stone และ Dimension Stone ในการเข้า โดยรูปแบบของดันเจี้ยนจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ด้วยกันคือ

Space & Time Rift

ดันเจี้ยนระดับทั่วๆ ไปที่ความยากไม่สูงมากนัก สามารถลงได้ทั้งแบบคนเดียวและปาร์ตี้ จะมีทั้งหมด 10 ช่วงระดับดันเจี้ยน แต่ละระดับดันเจี้ยนก็จะแบ่งช่วงเลเวลของตัวละครที่สามารถเข้าได้ออกเป็น 4 ระดับคือ

• Easy ระดับง่ายสุดสามารถลงคนเดียวได้แบบชิลๆ
• Normal ระดับกลางที่มอนสเตอร์จะถึกขึ้นมาหน่อยแต่ก็ลงคนเดียวได้ง่าย
• Hard เหมาะกับลงแบบปาร์ตี้เพราะมอนสเตอร์ทั้งถึกและโจมตีแรง ถึงอย่างนั้นก็สามารถลงคนเดียวได้เช่นกัน แต่อาจจะใช้เวลาในการเคลียร์ค่อนข้างมาก
• Hardcore เป็นระดับที่ยากที่สุดเหมาะกับการลงเป็นปาร์ตี้ และสามารถลงได้เพียงแค่ 3 ครั้งต่อวันเท่านั้น และในดันเจี้ยนระดับนี้จะดร็อปไอเทมเฉพาะคือ Essence ที่สามารถหาได้เฉพาะในดันเจี้ยนระดับ Hardcore เท่านั้น

ในส่วนของไอเทมรางวัลและหาได้จากในดันเจี้ยนนี้จะเป็นไอเทมประเภทวัตถุดิบในการอัพเกรดต่างๆ รวมไปถึงอาวุธและเครื่องป้องกันที่ดร็อปได้จากบอสและมอนสเตอร์ นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งในการหา “รูบี้” อีกด้วย เพราะในแต่ละดันเจี้ยนของรางวัลสูงสุดก็คือ “รูบี้” จำนวนหนึ่ง

Dimension Rift

เงื่อนไขเกือบจะทุกอย่างในดันเจี้ยนนี้จะเหมือนกับ Space & Time Rift แต่จะมีข้อจำกัดและเงื่อนไขเพิ่มเข้ามาคือ

• มีระดับเลเวลและความยากที่สูงกว่า
• ระดับ Hardcore สามารถเข้าได้วันละ 3 ครั้งเท่านั้น
• มีเงื่อนไขเกี่ยวกับระยะเวลาในการเคลียร์ดันเจี้ยนและส่งผลต่อแร็งค์เมื่อจบดันเจี้ยน
• ของรางวัลสูงสุดจะเป็นหมวกบอสประจำดันเจี้ยนนั้นๆ ซึ่งเพิ่มค่าสเตตัสและออฟชั่นพิเศษที่เยอะมากๆ

แน่นอนว่าดันเจี้ยนนี้สามารถลงคนเดียวได้ แต่แนะนำว่าควรหาปาร์ตี้ลงเพราะมีระยะเวลาจำกัดในการเคลียร์นั่นเอง ถ้าอยากได้ SSS ก็ต้องเตรียมปาร์ตี้ให้ดี หรือทำของให้โหดเพื่อจะลงได้ง่ายขึ้น

Daily Rift

เป็นดันเจี้ยนที่เปิดให้ลงทุกวัน ลักษณะพิเศษของดันเจี้ยนนี้ก็คือ มีรูปแบบของรางวัลที่ชัดเจนแบบสุดๆ เลยทีเดียว โดยแต่ละดันเจี้ยนเราสามารถดูรายละเอียดได้ว่าเมื่อจบแล้วจะได้ไอเทม, ค่าประสบการณ์ Exp หรือ Gold จำนวนหนึ่ง โดยผู้เล่นสามารถเลือกลงดันเจี้ยนเฉพาะเพื่อล่าสิ่งที่ต้องการได้ แน่นอนว่าดันเจี้ยน Daily Rift จะให้ค่าตอบแทนที่สูงกว่าดันเจี้ยนอื่นๆ ตัวอย่างเช่น Rift EXP เมื่อกำจัดมอนสเตอร์ในดันเจี้ยนและเคลียร์ได้ก็จะได้รับค่าประสบการณ์ EXP แบบมหาศาลเลยทีเดียว หรือแม้แต่ Rift Gold เมื่อจบดันเจี้ยนก็จะได้รับเงิน Gold จำนวนมากเป็นของตอบแทน

สิ่งที่ต้องระวังในการลงดันเจี้ยนนี้ก็คือ สามารถลงได้เพียงแค่วันละ 3 ครั้งเท่านั้น โดยคิดแบบรวมดันเจี้ยน นั่นหมายถึง คุณอาจจะต้องวางแผนให้ดีว่าจะลงดันเจี้ยนไหนและต้องการอะไร ณ เวลานั้น เพราะถ้าเน้นลงแค่ Rift EXP แน่นอนว่าคุณจะได้ EXP ในการอัพเลเวลที่เยอะมาก แต่ก็จะไม่สามารถลงดันเจี้ยนอื่นหา Gold และวัตถุดิบได้ หรือถ้าจะลงแบบเฉลี่ยดันเจี้ยนละครั้งก็ได้เช่นกัน ทั้งหมดขึ้นอยู่กับตัวผู้เล่นเอง

ของรางวัลพิเศษ

ในการลงดันเจี้ยนเหล่านี้ จะมี “ลูกแก้วมอนสเตอร์” ดร็อปจากมอนสเตอร์และบอสในดันเจี้ยน เมื่อเก็บสะสมได้ครบตามจำนวนที่ระบุไว้ (ประมาณ 8-10 ลูก) ก็จะได้รับของรางวัลเพิ่มเติม และเมื่อสะสมไปเรื่อยๆ ก็จะสามารถปลดของรางวัลสูงสุดของมอนสเตอร์ตัวนั้นๆ ได้ ส่วนใหญ่ของรางวัลสูงสุดจะเป็น “รูบี้” หรือ “หมวกบอส” เป็นต้น

เทคนิคการลงดันเจี้ยนเพิ่มเติม

• แนะนำว่าใครที่อยากลงแบบ Solo ได้ทุกดันเจี้ยนควรหาไอเทมเครื่องป้องกันระดับ “สีฟ้า” เป็นอย่างต่ำ ส่วนอาวุธหลัก “ควรเป็นระดับสีม่วง”
• สกิลเครื่องป้องกัน ควรเน้นสกิลเพิ่ม Def และ Def เป็นหลัก
• ควรเน้นสกิลโจมตีที่มีคูลดาวน์ไวในการลงดันเจี้ยน เพราะจะช่วยให้เราเก็บกวาดมอนสเตอร์ได้ง่ายและควรมีสกิลโจมตีอย่างน้อย 4-5 สกิล
• ถ้าลงคนเดียวไม่ไหว อย่าฝืน ให้เน้นหาปาร์ตี้เป็นหลัก
• สามารถเก็บ “ลูกแก้วมอนสเตอร์” จากดันเจี้ยนเลเวลต่ำๆ ได้ โดยไม่จำเป็นต้องเน้นดันเจี้ยนระดับสูง

ทั้งหมดเป็นความรู้เกี่ยวกับดันเจี้ยนต่างๆ ภายในเกม Soul Gauge หวังว่าจะมีประโยชน์กับผู้เล่นไม่มากก็น้อย และต้องบอกส่งท้ายว่า การลงดันเจี้ยนสามารถใช้ “บัฟหน้าดันเจี้ยน” เพื่อช่วยให้ลงง่ายขึ้นได้ แต่ไม่แนะนำเท่าไร เพราะการใช้บัฟแต่ละครั้งต้องเสีย “รูบี้” ซึ่งเป็นอะไรที่หาได้ค่อนข้างยากนั่นเอง